พรรคกล้าลงพื้น​ที่สงขลา เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 6 สงขลา ประชาชนเข้าร่วมมารับฟังกันอย่างเนืองแน่น

นายกรณ์ จาติกวณิช
หัวหน้าพรรคกล้า


เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 เวลา 15:00 น. นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้าเดินทางมาที่บ้านยูงทอง ม.4 อำเภอคลองหอยโข่ง และที่วัดยางทอง อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พร้อม พ.อ. สุชาติ จันทร โชติกุล รองหัวหน้าพรรคและประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าภาคใต้ เปิดตัว นายพงศธร สุวรรณรักษา หรือทนายอาร์ม ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส. เขต6 สงขลาแทนนายถาวร เสนเนียม ที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์การเป็นสส.สงขลา พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.สงขลาจำนวน 5 เขต ประกอบด้วยนายสมพร หาญณรงค์ เขต.4 นายธัชพล วิบูลย์พันธ์ เขต2 ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ เขต.3 และนายสราวุธ สุวรรณรัตน์ ทีมยุทธศาสตร์ภาคใต้ อดีตผู้สมัคร เลือกตั้งซ่อมจังหวัดนครศรีธรรมราช

พ.อ. สุชาติ จันทร โชติกุล
รองหัวหน้าพรรคและประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าภาคใต้
นายสราวุธ สุวรรณรัตน์
ทีมยุทธศาสตร์ภาคใต้
นายพงศธร สุวรรณรักษา
ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 6 สงขลา
นายสมพร หาญณรงค์ (ขวามือ)
ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 4 สงขลา


โดยมีประชาชนกว่า2 พันคน มาชมการปราศรัยการเปิดตัวของว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคกล้า เกิดปรากฏการณ์ใหม่ความตื่นตัวทางการเมือง
พ.อ. สุชาติจันทร โชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ภาคใต้ที่ลาออกหมายร่วมงานกับพรรคกล้าได้ขึ้นปราศรัยพบปะประชาชนชาวอำเภอคลองหอยโข่ง และชาวอำเภอสะเดา ว่าสาเหตุที่ได้ลาออกจากพรรคพลังประชารัฐเนื่องจากมีปัญหาภายในพรรคไม่แก้ปัญหา เศรษฐกิจในพื้นที่และไม่มีรัฐมนตรีจากภาคใต้ และไม่มีผลงานในจังหวัดสงขลาเลย


ภายในพรรคมีการหักหลังในระดับแกนนำพรรค แม้กระทั่งระดับพลเอกประยุทธ์ยังโดนหักหลังเลย พรรคพลังประชารัฐผมร่วมก่อตั้ง สามารถนำพา สส.พรรคได้ 14 ที่นั่งเข้าสภา แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว ผมได้ไปพบกับพลเอกประยุทธ์นายกรัฐมนตรีบอกว่าผมอยู่ไม่ได้แล้วขอลาออก นายกบอกว่า ผมหาพรรคใหม่ให้ เป็นพรรคที่ดีมีอุดมการทำงานด้วยใจบริสุทธิ์ คือพรรคกล้า ผมก็โชคดีที่ได้อยู่กับท่านกรณ์ จาติกวณิช
ผมไม่ลืมพ่อแม่พี่น้องชาวอำเภอคลองหอยโข่ง ผมทำการเมืองครั้งแรกได้พ่อแม่พี่น้องชาวคลองหอยโข่งสนับสนุนมาโดยตลอดเพราะที่นี่คือเพื่อน พี่ น้องผมทั้งนั้น พร้อมอ้อนขอฝากนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีคลังมือฉมังในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ให้ชาวคลองหอยโข่งและชาว อ.สะเดารับไว้ในอ้อมกอด แล้วจะมาขอบคุณหลังเลือกตั้ง


จากนั้นนายกรณ์ จาติกวณิช ได้ขึ้นเปิด แนะนำตัว กับประชาชนชาวอำเภอคลองหอยโข่งและอำเภอสะเดา โดยกล่าวถึงการเมืองที่สะอาดไม่มี การซื้อสิทธิ์ขายเสียงไม่มีการหาผลประโยชน์ โดยไม่หวั่นใจแม้การเลือกตั้งซ่อมเที่ยวนี้แข่งกับผู้มีบารมีของจังหวัดสงขลา โดยบอกว่านายพงศธรสุวรรณรักษา หรือทนายอาร์มเด็กหนุ่มที่มีความมั่นใจสูงเดินทางไปพบผมและแนะนำตัวบอกว่าจะลง สส.เขต 6 สงขลาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทนายอาร์มเป็นคนที่มีอุดมการสูงไม่ใช่ลูกเจ้าพ่อไม่ใช่ลูกนักการเมืองไม่ใช่ลูกนักธุรกิจแต่มีหัวใจรักความถูกต้องช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างกรณีช่วงโควิดที่ผ่านมามีพนักงานเลิกจ้างหลายร้อยคนโดยไม่ได้รับเงินเยียวยาหรือเงินทดแทนจากนายจ้าง ทนายอาร์มก็ช่วยให้จนประสบความสำเร็จโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน


พร้อมกล่าวถึงปัญหาเรื่องราคายางพาราว่ากลุ่มนายทุน 5 เสือ เป็นผู้กดราคายางพาราในภาคใต้เนื่องจากว่ามีการขายล่วงหน้าในราคากิโลกรัมละ 60 บาทจึงทำการกว้านซื้อในราคาที่ต่ำกว่า 50 บาทเพื่อป้อนตลาดโลกฟันกำไร มีผลประโยชน์ให้นักการเมืองที่หนุนหลัง ราคายางพาราไม่สามารถขึ้นราคาสูงไปกว่านี้
อยากให้ดูตัวอย่างสหกรณ์บ่อทอง จังหวัดชลบุรี ที่สามารถส่งออกยางพาราไปยังผู้ผลิตอย่างรถยนต์ในต่างประเทศโดยตรงได้ในราคาที่สูงกว่าโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางซึ่งกำไรจะตกกับสมาชิกของสหกรณ์ทุกคน สหกรณ์มีความเข้มแข็งมีความรู้เชี่ยวชาญด้านยางพาราตอนนี้ได้กว้านซื้อยางพาราในภาคตะวันออกและภาคอีสานเพื่อส่งออกไปยังตลาดโลก ประสบความสำเร็จมาก


แล้วจากนั้นนายกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อว่าวันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี มีประชาชนชาว อำเภอคลองหอยโข่งและชาวอำเภอสะเดาจังหวัดสงขลา เราเปิด 2 เวที ชาวบ้านตื่นตัวมารับฟังการเปิดตัวของพรรคกล้า เป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนมาฟังมากมาย แสดงให้เห็นว่าประชาชนทั้ง2 อำเภอต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงทางเมือง การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองว่าต้องเปลี่ยนแปลง ประชาชนเดือดร้อนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น วิธีเดียวที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนคือการเลือกสส. ของพรรคกล้า ื


ผมมีความเชื่อมั่นในผู้สมัครของพรรคที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอดในช่วงโควิดที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือแรงงานที่ถูกเอาเปรียบมาแล้วเป็นจำนวนมาก คือลักษณะคนที่พรรคกล้าต้องการ
ด้านพันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล กล่าวว่าไม่คิดว่าประชาชนจะให้ความสนใจเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก การเมืองสงขลาผมได้เปิดไปปราศรัยหลายที่ก็ไม่มากเท่านี้ ทั้งสองเวทีวันนี้ทำให้เรามีความมั่นใจที่จะขับเครื่องการเมืองต่อไป ส่งผลต่อกำลังใจให้กับผู้สมัครของเราในการไปพบปะกับประชาชนอย่างต่อไป นึกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

เข้มทุกข่าว ชัดทุกเรื่อง

By admin

ใส่ความเห็น